มาตรฐานสีสายไฟ บอกอะไรเราบ้าง

มาตรฐานสีสายไฟ
ปัจจุบันมาตรฐานสีสายไฟได้มีการเปลี่ยนแปลงมาใช้ มอก.11-2553 ซึ่งมาตรฐานเดิมคือ มอก.11-2531 สาเหตุที่เปลี่ยนเนื่องจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ต้องการให้สายไฟทั้งภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนในประเทศไทย มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล (Standards IEC 60227 )

สีสายไฟ
สีดำ (เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล) หมายถึง L หรือ L1 ขั้วบวกกระแสไฟฟ้าสายที่ 1
1. สีแดง (เปลี่ยนเป็นสีดำ) หมายถึง L2 ขั้วบวกกระแสไฟฟ้าสายที่ 2
2. สีน้ำเงิน (เปลี่ยนเป็นสีเทา) หมายถึง L3 ขั้วบวกกระแสไฟฟ้าสายที่ 3
3. สีขาว หรือ สีเทา (เปลี่ยนเป็นสีฟ้า) หมายถึง N ขั้วลบศักย์ไฟฟ้าต่ำ
4. สีเขียว หรือ สีเขียวคาดเหลือง (กำหนดเป็นสีเขียวคาดเหลือง) หมายถึง G สายดิน ช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้

ความแตกต่างระบบไฟ 1 เฟส และ 3 เฟส ดังนี้
ระบบไฟ 1 เฟส ( 220 V )
1.สายเฟสขั้วบวก (L) ฉนวนเป็น สีน้ำตาล
2.สายนิวทรัลขั้วลบ (N) ฉนวนเป็น สีฟ้า
3.สายดินป้องกันไฟรั่วลัดวงจร (G) ฉนวนเป็น สีเขียวแถบเหลือง
ระบบไฟ 3 เฟส ( 380 V )
1.สายเฟสขั้วบวก (L1) ฉนวนเป็น สีน้ำตาล
2.สายเฟสขั้วบวก (L2) ฉนวนเป็น สีดำ
3.สายเฟสขั้วบวก (L3) ฉนวนเป็น สีเทา
4.สายนิวทรัลขั้วลบ (N) ฉนวนเป็น สีฟ้า
5.สายดินป้องกันไฟรั่วลัดวงจร (G) ฉนวนเป็น สีเขียวแถบเหลือง
TIPS
1.การทำงานที่เกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าควรใช้เครื่องมือตรวจสอบก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
2.เครื่องมืออุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมีติดบ้านไว้คือ สายไฟ คีมต่างๆ คัตเตอร์ และ เทปพันสายไฟ
3.หากไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้าควรให้ช่างหรือผู้เชี่ยวชาญระบบไฟฟ้าช่วยดูแลจะปลอดภัยมากกว่า
อ้างอิง : เว็บไซต์บ้านและสวน / Yelllo / BCC / Poonsincable